Adrenaline ( Epinephrine )
ข้อบ่งใช้
รักษาภาวะ Shock, Asthma attack
รูปแบบยาที่มีใช้ในโรงพยาบาล
Adrenaline inj. 1 mg/ml in 1 ml ampule หรือ 1 : 1,000/
amp.
ขนาดใช้ยา
เด็ก : เริ่มที่ 0.05 1 mcg/kg/min,
Maximum dose 1 2 mcg/kg/min
ผู้ใหญ่ : เริ่มที่ 4 mcg/kg/min
แล้วค่อยๆเพิ่มจนสามารถควบคุมอาการได้
Monitoring
- Serum K
- Heart rate
- ระดับ Glucose
- Blood pressure
อาการเมื่อได้รับยาเกินขนาด
Hypertension, Sweating, Cerebral hemorrhage, Convulsion
วิธีการผสมและความคงตัวของยา
เก็บยาไว้ให้พ้นแสงและควรเก็บไว้ในตู้แช่เย็น ที่อุณหภูมิ
2-8 ๐C วิธีการผสมยาเพื่อการบริหารยาตาม route ต่างๆ ดังนี้ ทาง
SC หรือ IM สามารถให้ยาในขนาด 1: 1,000 ทาง IV injection
ต้องเจือจางด้วย NSS อย่างน้อย 10 ml ให้ได้ ความเข้มข้น 1 :
10,000 หรือ 0.1 mg/ml ทาง IV infusion ควรผสมใน D5W
โดยคำนวณปริมาณได้จาก อัตราเร็วที่ต้องการให้ยา
ข้อมูลสำคัญที่ควรทราบ
Antidote คือ Phentolamine
แต่เนื่องจากยานี้ไม่มีในประเทศไทย ในกรณีที่เกิด Extravasation
ระหว่างให้ยา และเกิด Blanching (
การซีดของเนื้อเยื่อบริเวณที่ยารั่วออกนอกเส้นเลือด )
การแก้ไขทำได้โดย ใช้ Topical nitrate
ทาบริเวณที่เกิดการรั่วของยา และสามารถใช้ infusion terbutaline
ร่วมด้วย |
แนวทางการสั่งใช้ยา
- แพทย์ควรระบุขนาดความเข้มข้นของยา และ route
ในการให้ยาให้ถูกต้องและชัดเจน เช่น Adrenaline 1: 1,000 IM
หรือ 1: 10,000 IV push
- ยาออกฤทธิ์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นแพทย์ควรตรวจติดตามและเฝ้าระวังผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด
แนวทางการจ่ายยา
- เนื่องจากเป็นยา Emergency
ควรมีการเตรียมยาให้พร้อมใช้ทั้งในรถฉุกเฉิน และบนหอผู้ป่วย
ดังนั้นต้องมีการตรวจสอบทั้งปริมาณและคุณภาพให้พร้อมใช้อยู่เสมอ
- ดูแลการเก็บรักษายาให้พ้นแสงแลเก็บในตู้แช่เย็น
แนวทางการบริหารยา
- ตรวจสอบยาทุกขั้นตอนทั้งในขณะหยิบยาจากที่เก็บ, จัดยา
และก่อนให้ยาผู้ป่วย
- การบริหารยาผู้ป่วย ควรให้ยาในเส้นเลือดขนาดใหญ่
เพื่อป้องกันการรั่วไหลของยาออกนอกเส้นเลือด ( Extravasation )
ซึ่งจะทำให้เกิด tissue necrosis ได้
- การฉีดแบบ IV infusion อย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิด
Cerebrovascular hemorrhage หรือ Cardiac arrhythmias ได้
ดังนั้นเมื่อฉีดแบบ IV infusion ควรใช้เครื่อง Infusion pump
จะปลอดภัยกว่า
อ้างอิง :
- Micromedex(R) Healthcare series vol.119
- The Handbook of Parenteral Drug Administration
|